ค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมพลาสติก - ประกันภัยครอบคลุมอะไรบ้าง?

การประกันสุขภาพจ่ายเงินค่าศัลยกรรมพลาสติกหรือไม่?

กรมธรรม์ประกันสุขภาพของคุณอาจต้องจ่ายค่าผ่าตัดพลาสติกขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขของแผนประกันสุขภาพของคุณหากการผ่าตัดถือว่าเป็นการทำใหม่และไม่ใช่เครื่องสำอางค์ ตาม American Society of Plastic Surgeons, 13 5000000000 ดอลลาร์ถูกใช้ในการทำศัลยกรรมพลาสติกใน U. S ในปี 2015 ที่ออกมาเป็นจำนวนมากในค่าแพทย์ดังนั้นผู้ที่จะจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการทำศัลยกรรมพลาสติก?

คำตอบสำหรับคำถามนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

ประกันสุขภาพรวมถึงความครอบคลุมสำหรับการศัลยกรรมพลาสติกหรือไม่?

ใครเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมพลาสติกขึ้นอยู่กับ บริษัท ประกันภัยของคุณและวิธีการที่คุณต้องการจะได้รับ สิ่งสำคัญคือต้องหาว่าการผ่าตัดเป็นเครื่องสำอางค์หรือสร้างใหม่หรือจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหรือรักษาคุณภาพชีวิตของคุณไว้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเพื่อตรวจสอบว่าจะต้องได้รับการคุ้มครองหรือไม่ แม้ว่านโยบายการประกันอาจแตกต่างกันไปในแง่ของสิ่งที่ถือเป็นขั้นตอนที่ได้รับการคุ้มครอง แต่ก็มีหลักเกณฑ์บางประการที่ บริษัท ประกันภัยส่วนใหญ่ปฏิบัติตามเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือจำเป็นและสิ่งที่ถือว่าเป็นเครื่องสำอาง

คำนิยามของการศัลยกรรมพลาสติกที่ครอบคลุมหรือไม่ครอบคลุมโดยการประกันสุขภาพมีอะไรบ้าง?

บริษัท ประกันภัยส่วนใหญ่ทำตามคำจำกัดความของ AMA (American Medical Association) และ American Society of Plastic Surgeons (ASPS) ซึ่งระบุ:

• การผ่าตัดแบบเข่าหมายถึงการผ่าตัดที่โครงสร้างผิดปกติที่เกิดจากข้อบกพร่องที่มีมา แต่กำเนิดความผิดปกติในพัฒนาการ , การบาดเจ็บ, การติดเชื้อ, เนื้องอกหรือโรค ซึ่งอาจรวมถึงการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงการทำงานหรือเพื่อให้ปรากฏเป็นปกติ
• การทำศัลยกรรมเสริมความงามคือการปรับรูปร่างโครงสร้างตามปกติของร่างกายเพื่อปรับปรุงความนับถือตนเองหรือการปรากฏตัวของผู้ป่วย

บริษัท ประกันสุขภาพสามารถประเมินความเสี่ยงของการทำศัลยกรรมพลาสติกได้แตกต่างกัน บริษัท ประกันภัยเป็นผู้แปลคำจำกัดความข้างต้น ใช้ตัวอย่างเช่นขั้นตอนการเข้าสุหนัตในเด็กทารก ใน บริษัท ประกันภัยที่ผ่านมาจ่ายสำหรับขั้นตอนนี้ แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นที่ บริษัท ประกันจะไม่จ่ายสำหรับขั้นตอนเพราะถือว่าเป็นเครื่องสำอาง สิ่งที่ถือเป็นศัลยกรรมพลาสติกเครื่องสำอางขึ้นอยู่กับ บริษัท ประกันภัยที่ถือนโยบายของคุณและอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาขึ้นอยู่กับประเภทของการประกันที่คุณมีการวิจัยและความต้องการของผู้ป่วยเช่นเดียวกับวิวัฒนาการของขั้นตอนใหม่และการรักษาพยาบาล

ตัวอย่างของการศัลยกรรมเสริมความงามไม่น่าจะได้รับการคุ้มครองโดยการประกันสุขภาพ

จำนวนของขั้นตอนการทำเครื่องสำอางค์ในผู้หญิงเพิ่มขึ้นกว่า 538% และ 325% สำหรับผู้ชายตั้งแต่ปีพ. ศ. 2540 ตามข้อมูลสถิติ ASPS 2015มันทำให้รู้สึกว่าคนกำลังมองหาที่จะได้รับค่าชดเชยจากการประกันสุขภาพของพวกเขาสำหรับขั้นตอนใด ๆ ที่แผนประกันสุขภาพของพวกเขาอาจครอบคลุม

น่าเสียดายที่การผ่าตัดเครื่องสำอางไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการประกันสุขภาพเนื่องจากเป็นทางเลือกและไม่ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตหรือการทำงานของร่างกาย

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการทำศัลยกรรมที่ไม่ได้รับการประกันสุขภาพเป็นประจำแม้จะมีข้อยกเว้นจากกรณีพิเศษก็ตาม

การดูดไขมัน

การเสริมเต้านม

• การทำศัลยกรรมตา
• ตัวอย่างของ บริษัท ประกันสุขภาพที่ใช้การประเมินทางจิตเวชเพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการทำศัลยกรรมพลาสติกรวมถึงการผ่าตัดลดน้ำหนัก
• แม้ว่าการดูดไขมันและ tucks ชั้นจะถือว่าเป็นเครื่องสำอาง สถานการณ์ที่มีผู้ที่ถือเป็นโรคอ้วนและได้รับการประเมินทางจิตเวชที่แสดงให้เห็นว่าน้ำหนักส่วนเกินส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่พวกเขากำลังนำไปให้ บริษัท ประกันสุขภาพสามารถพิจารณาการรักษาพยาบาลได้ ผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามการทำเช่นนี้มักเกิดขึ้นหลังจากการประเมินผลในระยะยาวรวมถึงการประเมินผลอย่างกว้างขวางรวมกับโปรแกรมตรวจสอบของแพทย์ก่อนและลองแก้ไขปัญหาด้วยโปรแกรมลดน้ำหนักที่ไม่ผ่าตัดและวิธีการอื่น ๆ

การผ่าตัดลดน้ำหนักไม่ได้รับการคุ้มครองตามปกติและต้องใช้กรณีพิเศษอย่างแท้จริง

ตัวอย่างของการทำศัลยกรรมตกแต่งที่ไม่ใช่เครื่องสำอางค์ที่อาจได้รับการคุ้มครองโดยประกันสุขภาพ ตัวอย่างเช่นถ้าจำเป็นต้องมีขั้นตอนการทำศัลยกรรมเพื่อรักษาสุขภาพให้ดีขึ้นของร่างกายแล้วจะไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องสำอาง ขั้นตอนต่อไปนี้เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อุบัติเหตุสำคัญหรือสถานการณ์ที่ร่างกายของคุณจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมเพื่อให้คุณมีคุณภาพชีวิตและการทำงานของร่างกายน่าจะได้รับความคุ้มครองโดยผู้ให้บริการประกันสุขภาพของคุณหากคุณมีแผนครอบคลุม ถ้าแพทย์ระบุขั้นตอนตามที่จำเป็นเพื่อให้อยู่อย่างถูกต้องสิ่งนี้อาจไม่ถือว่าเป็นเครื่องสำอาง อย่างไรก็ตาม บริษัท ประกันภัยอาจต้องการให้การแก้ปัญหาที่ไม่ผ่าตัดหมดลงก่อนที่กระบวนการจะได้รับการอนุมัติ

โปรดจำไว้ว่า บริษัท ประกันสุขภาพแต่ละแห่งมีความคุ้มครองของตัวเองและอาจ จำกัด ขั้นตอนหรือยกเว้นพวกเขา ก่อนอื่นคุณต้องดูว่า บริษัท ประกันสุขภาพของคุณครอบคลุมการทำศัลยกรรมพลาสติกที่ไม่ใช่เครื่องสำอางหรือไม่ สิ่งนี้ควรได้รับการตรวจสอบก่อนขั้นตอนใด ๆ เพื่อให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

ตัวอย่างงานจมูกที่อาจจะครอบคลุมโดยการประกันสุขภาพ

Julie มีปัญหาเรื่องการหายใจเป็นปกติเธอไม่ได้นอนหลับสบายและสุขภาพโดยทั่วไปของเธอได้รับผลกระทบ เธอพบว่าเธอมีกะบังเบี่ยงเบนที่ก่อให้เกิดปัญหา ถ้าแพทย์แสดงให้เห็นว่านี่เป็นการผ่าตัดที่จำเป็นและไม่ใช่เครื่องสำอางแล้วงานที่เธอมีต่อจมูกหลังการแก้ไขกะบังเบี่ยงเบนอาจตกอยู่ภายใต้การทำศัลยกรรมตกแต่งที่ปกคลุม

ตัวอย่างของการผ่าตัดเต้านมที่อาจได้รับการคุ้มครองโดยแผนประกันสุขภาพ Susan มีหน้าอกขนาดใหญ่มากซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายมากและทำให้เธอยากที่จะเข้าร่วมกิจกรรมทางกายต่างๆเธอประสบกับอาการปวดไหล่และหลังอย่างรุนแรงและคุณภาพชีวิตของเธอได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์ หลังจากที่แพทย์ของเธอทำการตรวจอย่างเต็มรูปแบบเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแพทย์ของเธอได้ชี้แจงว่าปัญหานี้เกิดจากน้ำหนักของหน้าอกของเธอและแนะนำให้ผ่าตัดลดเต้านม ซูซานคุยเรื่องนี้กับ บริษัท ประกันสุขภาพของเธอและต้องส่งแบบฟอร์มต่างๆและข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์ของเธอ ในตอนแรกพวกเขาปฏิเสธความคุ้มครองที่แนะนำว่าการบำบัดทางกายภาพหรือการดูแลเกี่ยวกับไคโรแพรคติกหรือยาแก้ปวดอาจแก้ปัญหาได้

Susan ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้มาเกือบปีแล้วและการบำบัดทางกายภาพเพียงครั้งเดียวและวิธีอื่น ๆ ทั้งหมดไม่สามารถแก้ปัญหาได้เธอสามารถขอรับการพิจารณาใหม่ได้

Susan ได้ทำแบบฟอร์มและข้อมูลใหม่ ๆ จากหมออีกครั้ง หลังจากตรวจสอบข้อมูลแล้ว บริษัท ประกันสุขภาพของเธอเห็นด้วยว่านี่ไม่ใช่ขั้นตอนเกี่ยวกับเครื่องสำอางและแนะนำให้ซูซานทราบว่าขั้นตอนนี้จะครอบคลุมผลประโยชน์ของเธอ

ตัวอย่างของความแปรผันระหว่างการประกันสุขภาพของผู้ประกันตนประเมินศัลยศาสตร์พลาสติก: ระวัง!

ไม่กี่เดือนต่อมาเพื่อนของ Susan ประสบกับการวินิจฉัยที่คล้ายคลึงกันเธอใช้วิธีการเดียวกันและถูกปฏิเสธเธอค้นพบว่า บริษัท ประกันภัยของเธอไม่ได้ดูขั้นตอนนี้เป็นสิ่งจำเป็นและเพื่อให้เธอสิ้นสุดขั้นตอนการจ่ายเงิน ทั้งหมดออกจากกระเป๋าซึ่งค่าใช้จ่ายของเธอ $ 10, 000. เธอดีใจที่เธอพบล่วงหน้าจากผู้ประกันสุขภาพของเธอว่าเธอจะไม่ได้รับการคุ้มครองสุขภาพประโยชน์ในการผ่าตัด.

ติดต่อผู้ดูแลแผนประกันสุขภาพหรือ บริษัท ประกันภัยโดยตรงและค้นหาความครอบคลุมที่คุณมีในขั้นตอนการทำศัลยกรรมพลาสติก

ดูข้อมูลที่ถูกต้อง ประมาณการกับการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายโดยละเอียดสำหรับขั้นตอนการทำศัลยกรรมของคุณเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลนี้ได้จากนโยบายของคุณ

ค้นหาว่าคุณจะหักส่วนลดใดในกรณีที่ครอบคลุม

ค้นหาว่าจำนวนเงินสูงสุดที่ต้องจ่ายคืออะไรและหากพวกเขาคาดหวัง คุณควรจ่ายเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนของขั้นตอน

หาคำตอบว่ายาที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวยาลดความอ้วนควรได้รับการพิจารณาอย่างไร

พิจารณาหาก บริษัท ประกันอาจจ่ายเงินบางส่วนตามขั้นตอนของคุณโดยการจ่ายครึ่งหนึ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลและคุณอาจจ่ายเงิน เครื่องสำอางครึ่งหนึ่ง แพทย์และผู้เชี่ยวชาญของคุณอาจสามารถช่วยคุณได้ที่นี่

ดูรายละเอียดในการเขียนเรื่องความคุ้มครองของคุณเพื่อไม่ให้คุณประหลาดใจ อย่าถือว่าสิ่งใดได้รับการคุ้มครองเว้นแต่ บริษัท ประกันสุขภาพของคุณจะยืนยัน

1. สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ความคุ้มครองครอบคลุมภายใต้แผนประกันสุขภาพที่กำหนดได้ยาก ตรวจสอบกับผู้ให้บริการประกันสุขภาพทุกครั้งก่อนที่คุณจะตั้งสมมติฐานใด ๆ เส้นของสิ่งที่ปกคลุมหรือไม่มีความร่มรื่นในหลาย ๆ กรณีและเป็นการยากที่จะพิจารณาสิ่งที่จำเป็นหรือเพียงแค่เครื่องสำอาง ในบางกรณีอาจมีการครอบคลุมเฉพาะส่วนของการทำศัลยกรรมเท่านั้นซึ่งทำให้มีความซับซ้อนมากขึ้นเตรียมพร้อมก่อนที่คุณจะพยายามยื่นเรื่องเคลมประกันสุขภาพของคุณ รายละเอียดเพิ่มเติมและตัวอย่างเกี่ยวกับ
2. ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมพลาสติกและวิธีการทั่วไปที่อาจได้รับการคุ้มครองโดยประกันภัย
3. นี่คือรายการที่รวบรวมข้อมูลจาก ASPS เกี่ยวกับการผ่าตัดที่ บริษัท ประกันของคุณอาจพิจารณาครอบคลุม:
4. ช่องท้อง การผ่าตัด: หากทำเพื่อปรับปรุงหรือกำจัดปัญหาสุขภาพเช่นอาการปวดหลังแผลไส้เลื่อนผื่นคันหรือช่วยเพิ่มความสามารถในการเดินตามปกติ
5. การผ่าตัดเต้านม: หากทำเพื่อแก้ไขความไม่สมมาตรให้ลดหน้าอกขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพการฟื้นฟูเนื่องจากการสูญเสียการมีตัวอ่อนที่ไม่ได้เป็นมาก่อน (เกิดมาพร้อมกับเต้านมเพียงตัวเดียว) หรือลดหน้าอกเพศผู้ขนาดใหญ่
6. การผ่าตัดหู: ถ้าทำเพื่อแก้ไขหูพิการโดยกำเนิดการเกิดโรคหรือการบาดเจ็บ
7. การผ่าตัดเปลือกตา: หากทำเพื่อแก้ไขเปลือกตาที่หลุดออกมาซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นหรือแก้ไขเปลือกตาที่หันผิดปกติ

การผ่าตัดใบหน้า: หากทำเพื่อรักษาสมดุลของรูปร่างหน้าตาหากเกิดจากอัมพาตให้รักษาความผิดปกติในกล้ามเนื้อใบหน้าศีรษะหรือคอ

การผ่าตัดมือ: หากทำเพื่อรักษาอาการชักของเส้นประสาทนิ้วช้ำการบาดเจ็บของเส้นประสาทการบาดเจ็บที่เส้นเอ็นนิ้วมือหลอมหรืออาการผิดปกติอื่น ๆ

การผ่าตัดเยื่อจมูก: หากทำเพื่อแก้ไขความผิดปกติที่เกิดจากการเกิดโรคหรือปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ

• ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณอาจตกอยู่ในประเภทเหล่านี้คุณควรพูดคุยกับแพทย์ของคุณ แพทย์ของคุณสามารถยืนยันได้ว่าเงื่อนไขของคุณจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้หรือไม่และช่วยให้คุณสามารถติดต่อ บริษัท ประกันภัยของคุณได้